สงครามโลกครั้งที่1
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาอดีตกาล
ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 และความสัมพันธ์ประเทศต่างๆที่มีกับไทยในยุคสมัยนั้น
2. ให้คนไทยได้รู้จักสงครามประวัติศาสตร์มากขึ้น
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
1.เบื้องหลังสงคราม
2.เส้นทางของสงคราม
3.เทคโนโลยีสงคราม
4.ภายหลังสงคราม
5.ประเทศไทยกับสงครามโลกครั้งที่ 1
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ได้รับความรู้ทางประวัติศาสตร์และเข้าใจความคิดในการรบของทั้ง
2 ฝ่าย
2.เล่าให้ลูกหลานฟังในอนาคต
ในการจัดทำโครงงานการคอมพิวเตอร์ กลุ่มของข้าพเจ้าได้อธิบายถึงหลักการเกิดสงครามโลกครั้งที่
1 ความคิดของทั้ง 2 ฝ่าย ความขัดแย้งทางลัทธิและศาสนาของทั้ง 2 ฝ่าย
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
โครงงานที่เกี่ยวข้อง
สงครามโลกครั้งที่ 2
สงครามเย็น
สงครามร้อน
วัสดุและอุปกรณ์
วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดทำโครงงานได้แก่
1.
เครื่องคอมพิวเตอร์
2.
DVD - RW
3. หนังประวัติศาสตรสงครามโลกครั้งที่
1
4.
หนังสือประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 1
วิธีการจัดทำโครงงาน
1.
ศึกษาเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1
2.
รวบรวมหัวข้อทั้งหมดที่จะศึกษาในโครงงาน
3.
คัดแยกหัวข้อต่างๆ ตามเนื้อเรื่องประวัติศาสตร์
4.
สรุปผลของสงครามโลกครั้งที่ 1
5.
นำเสนอโครงงานเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 1
จากการศึกษาโครงงานเรื่องสงครามโลกครั้งที่
1ในการจัดทำโครงงานครั้งนี้
ผู้จัดทำได้นำเสนอ มีดังนี้
สาเหตุระยะยาวของสงครามรวมถึงนโยบายต่างประเทศแบบจักรวรรดินิยมของมหาอำนาจยุโรปทั้งหลาย
อย่างจักรวรรดิเยอรมัน
จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี จักรวรรดิออตโตมันจักรวรรดิรัสเซียจักรวรรดิอังกฤษฝรั่งเศสและอิตาลี ส่วนการลอบปลงพระชนม์อาร์ชดยุกฟรานซ์เฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรีย รัชทายาทแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี เมื่อวันที่
28 มิถุนายน ค.ศ. 1914 โดยกัฟรีโลปรินซีป
นักชาตินิยมยูโกสลาฟ เป็นชนวนเหตุใกล้ชิดของสงคราม ออสเตรีย-ฮังการีจึงยื่นคำขาดฮับสบูร์กต่อราชอาณาจักรเซอร์เบีย[12][13]
พันธมิตรทั้งหลายซึ่งก่อตั้งขึ้นมาเมื่อหลายทศวรรษก่อนถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้อง
ดังนั้นภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ มหาอำนาจทั้งหลายจึงอยู่ในภาวะสงคราม
และความขัดแย้งลุกลามไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วผ่านอาณานิคมต่าง ๆวันที่ 28 กรกฎาคม ความขัดแย้งเปิดฉากขึ้นเมื่อออสเตรีย-ฮังการีรุกรานเซอร์เบีย ตามด้วยการรุกรานเบลเยียม ลักเซมเบิร์กและฝรั่งเศสของเยอรมนี และการโจมตีเยอรมนีของรัสเซีย หลังการบุกโจมตีกรุงปารีสของเยอรมนีถูกหยุด แนวรบด้านตะวันตกก็เป็นการรบแห่งการสูญเสียที่อยู่กับที่ด้วยแนวสนามเพลาะซึ่งเปลี่ยนแปลงน้อยมากกระทั่ง ค.ศ. 1917 ในทางตะวันออก กองทัพรัสเซียสามารถเอาชนะกองทัพออสเตรีย-ฮังการี แต่ถูกกองทัพเยอรมันบีบให้ถอยกลับจากปรัสเซียตะวันออกและโปแลนด์ แนวรบใหม่ ๆ เปิดขึ้นเมื่อจักรวรรดิออตโตมันเข้าสู่สงครามใน ค.ศ. 1914 อิตาลีและบัลแกเรียใน ค.ศ. 1915 และโรมาเนียใน ค.ศ. 1916 จักรวรรดิรัสเซียล่มสลายใน ค.ศ. 1917 และรัสเซียถอนตัวจากสงครามหลังการปฏิวัติเดือนตุลาคมในปีเดียวกัน หลังการรุกตามแนวรบด้านตะวันตกของเยอรมนีใน ค.ศ. 1918 กองทัพสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงครามและกองทัพสัมพันธมิตรสามารถผลักดันกองทัพเยอรมันกลับไปหลังได้รับชัยชนะติดต่อกันหลายครั้ง เยอรมนี ซึ่งประสบปัญหากับนักปฏิวัติถึงขณะนี้ ได้ตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ วันสงบศึก และชัยชนะตกเป็นของฝ่ายสัมพันธมิตร
เมื่อสงครามยุติ รัฐจักรวรรดิใหญ่สี่รัฐ อันได้แก่ จักรวรรดิเยอรมัน ออสเตรีย-ฮังการี รัสเซียและออตโตมัน พ่ายแพ้ทั้งทางการเมืองและทางทหารและได้สิ้นสภาพไป เยอรมนีและรัสเซียสูญเสียดินแดนไปมหาศาล ส่วนอีกสองรัฐที่เหลือนั้นล่มสลายลงอย่างสิ้นเชิง แผนที่ยุโรปกลางได้ถูกเขียนใหม่โดยมีประเทศขนาดเล็กเกิดใหม่หลายประเทศสันนิบาตชาติถูกก่อตั้งขึ้นด้วยหวังว่าจะป้องกันความขัดแย้งเช่นนี้มิให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ลัทธิชาตินิยมยุโรปเกิดขึ้นหลังสงครามและการล่มสลายของจักรวรรดิทั้งหลาย ผลสะท้อนจากความพ่ายแพ้ของเยอรมนีและปัญหากับสนธิสัญญาแวร์ซาย ยอมรับกันทั่วไปว่าเป็นปัจจัยซึ่งนำไปสู่การปะทุของสงครามโลกครั้งที่สอง
จากการจัดทำโครงงานพบว่า
สงครามโลกครั้งที่1
The World War 1(ค.ศ.1914 -1918)
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1914-1918 เป็นการแย่งชิงความเป็นใหญ่และแข่งขันในการแสวงหาผลประโยชน์ของชาติมหาอำนาจในยุโรป
จนมีการแบ่งมหาอำนาจเป็นสองฝ่าย
ซึ่งต่างแข่งขันในด้านการดำเนินนโยบายทางการทูตและทางการทหาร
จนก่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 สาเหตุของสงครามโลกครั้งที่
1 ได้ดังนี้
1. เป็นผลสืบเนื่องมาจากสงครามฟรังโก-ปรัสเซียที่เกิดขึ้นในระหว่างปี (ค.ศ. 1870-1871) ซึ่งฝรั่งเศสเป็นฝ่ายแพ้
มีผลทำให้เกิดการรวมประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศสต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม 5 พันล้านฟรังก์ ต้องยกแคว้นอัลซัล-ลอเรนให้กับเยอรมนีและฝรั่งเศสต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว
23 ปี จึงสร้างความโกรธแค้นให้กับฝรั่งเศส, ฝรั่งเศสต้องการแก้แค้นเยอรมนี
2. เกิดความรู้สึกชาตินิยม (Nationalism) พลังแห่งการรักชาติหรือความภูมิใจในชาติตนเอง
ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะในคาบสมุทรบอลข่าน
- ขบวนการขยายอิทธิพลสลาฟ (Pan Slavism) ชาวสลาฟต้องการแยกตัวออกจากการปกครองตุรกี
- ประชาชนในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาไม่ต้องการอยู่ใต้อำนาจการปกครองของออสเตรีย-ฮังการี
ข้อเสนอแนะ
โปรแกรมที่ใช้ในการทำโครงงานคือ
Microsoft Office Word 2007
บรรณานุกรม
สรุปสงครามโลกครั้งที่ 1
ผลของสงครามโลก
ความขัดแย้ง
http://www.slideshare.net/Earnnnpunyawee/1-2-41316996
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น